ดื่มคาเฟอีนแค่ไหนถึงปลอดภัย ?
- idavisonbkk
- 12 ก.ย.
- ยาว 1 นาที

คาเฟอีนคืออะไร ?
Caffeine (คาเฟอีน) คือสารกระตุ้นตามธรรมชาติที่พบในพืชหลายชนิด เช่น เมล็ดกาแฟ (Coffee), ใบชา (Tea), เมล็ดโกโก้ (Cocoa) และถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้แต่ยาคาเฟอีนจัดอยู่ในกลุ่มสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System stimulant) ที่ทำให้รู้สึกตื่นตัว ลดความง่วง และเพิ่มพลังงานชั่วคราว
ผลดีของคาเฟอีน
เมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม คาเฟอีนสามารถให้ประโยชน์หลายด้าน ได้แก่
เพิ่มความตื่นตัวและสมาธิช่วยกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว ลดความง่วง ทำให้มีสมาธิในการทำงานหรือเรียนรู้มากขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายคาเฟอีนช่วยกระตุ้นระบบประสาท เพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน และเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อ
ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานมีฤทธิ์กระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้นเล็กน้อย
อาจลดความเสี่ยงบางโรคงานวิจัยบางชิ้นพบว่าการดื่มกาแฟในระดับปานกลางอาจช่วยลดความเสี่ยงของ โรคพาร์กินสัน, โรคอัลไซเมอร์ และ เบาหวานชนิดที่ 2 ได้
ผลเสียของคาเฟอีน
หากบริโภคคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไป หรือร่างกายไวต่อคาเฟอีน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงดังนี้
ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง
กระสับกระส่าย วิตกกังวล หรือมือสั่น
นอนไม่หลับหรือนอนหลับยาก โดยเฉพาะหากดื่มช่วงบ่าย–เย็น
ปวดท้อง คลื่นไส้ หรือถ่ายเหลว
เกิดภาวะ “ดื้อคาเฟอีน” และอาการถอน (เช่น ปวดหัว อ่อนเพลีย หงุดหงิด) เมื่อหยุดดื่มทันที
ปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มแต่ละเมนู

ปริมาณคาเฟอีนสูงสุดที่แนะนำต่อวัน
หน่วยงานด้านสุขภาพอย่าง U.S. Food and Drug Administration (FDA) และ European Food Safety Authority (EFSA) แนะนำว่า
ผู้ใหญ่ทั่วไป : ไม่เกิน 400 มก./วัน
หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร : ไม่เกิน 200 มก./วัน
วัยรุ่น (ต่ำกว่า 18 ปี) : ไม่เกิน 100 มก./วัน
เด็กเล็ก : ควรหลีกเลี่ยง
ความคิดเห็น